SKU คืออะไรในธุรกิจร้านอาหาร?
SKU (Stock Keeping Unit) คือ “รหัสระบุสินค้าแบบเฉพาะเจาะจง” ที่คุณกำหนดขึ้นเองสำหรับวัตถุดิบหรือสินค้าทุกชนิดในร้านอาหาร เช่น แทนที่จะเขียนว่า “แป้ง” คุณอาจตั้งชื่อว่า FLR-WHT-5KG-001 เพื่อระบุว่าเป็นแป้งสาลีขนาด 5 กิโลกรัมจากซัพพลายเออร์เจ้าใดเจ้านึง
ต่างจาก บาร์โค้ด ซึ่งเป็นรหัสสากลที่ใช้ซ้ำได้ในสินค้าทั่วไป SKU เป็นรหัสภายในร้านที่คุณสามารถออกแบบให้เหมาะกับการจัดการวัตถุดิบและซัพพลายเชนของคุณเอง

ทำไมร้านอาหารควรใช้ระบบ SKU?
1. ระบุสินค้าที่คล้ายกันได้ชัดเจน
เช่น CHK-BRST-FRESH-001 กับ CHK-BRST-FROZ-001 ช่วยให้ทีมไม่หยิบของผิด เช่น อกไก่สด กับอกไก่แช่แข็ง
2. ติดตามปริมาณสินค้าในสต็อกอย่างแม่นยำ
ตามข้อมูลจาก National Restaurant Association ร้านอาหารสูญเสียต้นทุนด้านอาหารประมาณ 10% เพราะไม่มีระบบจัดการสต็อกที่ดี การใช้ SKU จะช่วยลดความสูญเสียเหล่านี้ได้
3. สั่งซื้อได้เร็วขึ้น
เมื่อระบบแจ้งว่า RICE-BSM-10KG-001 ใกล้หมด คุณสามารถสั่งซื้อทันทีโดยไม่ต้องตรวจสอบรายละเอียดหลายรอบ
4. วางแผนธุรกิจได้ง่าย
รายงานจาก SKU จะแสดงว่าวัตถุดิบไหนขายดีหรือไม่ดี ช่วยให้คุณวางแผนสั่งซื้อและลดของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมต้องให้ SKU มีความเฉพาะเจาะจง?
การใช้รหัส SKU ซ้ำกัน หรือกำหนดรหัสแบบกว้าง ๆ เช่น “SAUCE1” อาจทำให้เกิดความสับสนในระบบ เช่น:
- นับจำนวนผิดพลาด เพราะระบบแยกสินค้าที่รหัสซ้ำกันไม่ออก
- ไม่สามารถใช้ระบบอัตโนมัติได้ เพราะระบบต้องใช้รหัสเฉพาะในการประมวลผล
พนักงานหยิบของผิด เพราะรหัสไม่บอกความแตกต่างของสินค้าอย่างชัดเจน
วิธีสร้าง SKU ที่ดีควรเป็นอย่างไร?
- ใช้รูปแบบมาตรฐาน เช่น หมวดสินค้า-ชนิด-ขนาด-ซัพพลายเออร์
เช่น SAUCE-TOM-1L-FMH = ซอสมะเขือเทศ 1 ลิตร จาก Food Market Hub - อย่าให้ยาวหรือสั้นเกินไป โดยทั่วไป 8–12 ตัวอักษร เหมาะสมกับร้านอาหาร
- หลีกเลี่ยงการใช้รหัสซ้ำกันเด็ดขาด

ประโยชน์ของการมีระบบ SKU ที่ดี
- หาสินค้าในสต็อกได้เร็วขึ้น
การใช้ SKU ทำให้สามารถระบุและค้นหาวัตถุดิบหรือสินค้าที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเปิดลังหรือค้นหาในเอกสารจำนวนมาก เช่น หากต้องการ “น้ำปลา 750 มล. จากซัพพลายเออร์ A” ระบบ SKU จะช่วยให้สามารถระบุตำแหน่งและจำนวนสินค้าได้ทันที ลดเวลาในการทำงานทั้งในครัวและคลังเก็บสินค้า - ลดข้อผิดพลาดในการสั่งของและเตรียมอาหาร
SKU ช่วยให้พนักงานเข้าใจตรงกันว่าสินค้าแต่ละชิ้นคืออะไร ลดความสับสนระหว่างของที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น ไก่สดกับไก่แช่แข็ง หรือซอสสูตรต่าง ๆ ทำให้การสั่งซื้อและการเตรียมอาหารถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงจากการสั่งผิดหรือจัดเตรียมผิดวัตถุดิบ - รู้ว่าวัตถุดิบไหนใช้บ่อย หรือวัตถุดิบไหนควรเลิกใช้
ระบบ SKU สามารถเชื่อมโยงกับรายงานยอดขายเพื่อแสดงให้เห็นว่าวัตถุดิบแต่ละชนิดถูกใช้มากน้อยเพียงใด ช่วยให้สามารถตัดสินใจได้ว่าสินค้าใดควรจัดซื้อเพิ่ม และสินค้าใดควรลดหรือเลิกนำเข้าเพื่อลดต้นทุนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ - ลดการสต็อกสินค้าที่เคลื่อนไหวช้า
SKU ช่วยในการติดตามว่าสินค้าใดอยู่ในคลังเป็นเวลานาน โดยระบบจะสามารถแจ้งเตือนหากมีสินค้าที่ไม่เคลื่อนไหวหรือเคลื่อนไหวช้า เพื่อให้สามารถจัดโปรโมชั่น หรือวางแผนการใช้งานก่อนที่สินค้าจะหมดอายุ - ลดของเสียและต้นทุน
เมื่อสามารถติดตามจำนวนสินค้าคงเหลือได้แบบเรียลไทม์ จะช่วยให้วางแผนการจัดซื้อได้แม่นยำ ลดการสั่งสินค้าซ้ำโดยไม่จำเป็น และลดโอกาสที่วัตถุดิบจะเน่าเสียหรือต้องทิ้ง ทำให้ต้นทุนโดยรวมของร้านลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ - เพิ่มกำไรของร้านได้ในระยะยาว
ด้วยระบบการจัดการสต็อกที่แม่นยำและลดความผิดพลาดในกระบวนการจัดซื้อและเตรียมอาหาร ร้านสามารถลดต้นทุนแฝงได้โดยไม่ต้องเพิ่มยอดขาย ซึ่งจะสะท้อนเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว
จากสถิติอุตสาหกรรม ร้านอาหารที่ใช้ระบบจัดการสต็อกและ SKU ที่มีประสิทธิภาพสามารถลด Food Waste ได้ถึง 15–20% ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อกำไรของธุรกิจ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SKU
SKU ในร้านอาหารคืออะไร?
รหัสที่ใช้ติดตามสินค้าหรือวัตถุดิบในระบบ เพื่อให้รู้ว่าสินค้าคืออะไร อยู่ที่ไหน ต้องสั่งเมื่อไหร่
ควรตั้ง SKU อย่างไร?
ควรใช้รหัสที่มีโครงสร้างชัดเจน เช่น ชื่อสินค้า / ขนาด / แหล่งที่มา และควรใช้โครงสร้างเดียวกันทั้งหมด
ใช้ชื่อสินค้าธรรมดาแทน SKU ได้ไหม?
ไม่แนะนำ เพราะชื่อทั่วไปอาจซ้ำกัน ทำให้เกิดความสับสน ควรใช้ SKU เพื่อความชัดเจนและแม่นยำ
เปลี่ยน SKU ได้ไหมหลังจากตั้งแล้ว?
ได้ แต่จะยุ่งยาก เพราะต้องแก้ไขทุกจุดในระบบ แนะนำให้ตั้งให้ดีตั้งแต่ต้น
SKU ควรรวมราคาด้วยไหม?
ไม่ควร ราคาควรจัดเก็บในระบบ POS หรือระบบจัดซื้อแยกต่างหาก
ต้องใช้ซอฟต์แวร์พิเศษในการใช้ SKU ไหม?
คุณสามารถใช้ Excel ได้ แต่ระบบ Inventory เช่น Food Market Hub จะทำให้แม่นยำและประหยัดเวลามากกว่า
SKU คือรากฐานของการจัดการสต็อกแบบมืออาชีพ
แม้ว่า SKU อาจดูเป็นเพียง “รายละเอียดเล็ก ๆ” แต่หากจัดการให้ดี จะช่วยลดต้นทุน ลดของเสีย เพิ่มกำไร และประหยัดเวลาของทีมงานได้อย่างมหาศาล
หากคุณยังไม่มีระบบจัดการ SKU ที่ดี หรืออยากยกระดับการจัดการวัตถุดิบในร้านให้แม่นยำและง่ายขึ้น ลองใช้ Food Market Hub เป็นผู้ช่วยมืออาชีพในร้านของคุณ