การบริหารร้านอาหารที่มีหลายสาขาในไทยอาจเต็มไปด้วยความซับซ้อน โดยเฉพาะการติดตามการสั่งซื้อวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์แต่ละราย ปัญหาที่เจอบ่อยคือความยุ่งเหยิงในการจัดการรายการสั่งซื้อและการจัดการข้อมูลซัพพลายเออร์ แต่ตอนนี้ Food Market Hub ได้นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ “Buying and Selling Catalogue” ที่ช่วยให้การบริหารจัดการซัพพลายเออร์และคำสั่งซื้อเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

Buying and Selling Catalogue คืออะไร?
Buying and Selling Catalogue คือเครื่องมือที่ช่วยจัดระเบียบและควบคุมรายการวัตถุดิบที่ร้านอาหารของคุณและซัพพลายเออร์ใช้ร่วมกัน คุณสามารถสร้าง Buying Catalogue หรือรายการสินค้าที่อนุมัติสำหรับแต่ละสาขา ทำให้แต่ละสาขาเห็นและสั่งซื้อวัตถุดิบที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า ลดความสับสนและการสั่งซื้อเกินจำเป็นได้
ในขณะเดียวกัน Selling Catalogue คือฟีเจอร์ที่ให้ซัพพลายเออร์ของครัวกลางสร้างรายการสินค้าที่เหมาะสมสำหรับแต่ละสาขา ซัพพลายเออร์ยังสามารถตั้งราคาขึ้นหรือลดราคาในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น โปรโมชั่นพิเศษ เพื่อให้การตั้งราคามีความยืดหยุ่นและโปร่งใส
ทำไมฟีเจอร์นี้ถึงเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับธุรกิจร้านอาหาร?
อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในมาเลเซียเติบโตอย่างรวดเร็ว ตลาดมีมูลค่าคาดว่าจะถึง 1 แสนล้านริงกิตภายในปี 2025 (อ้างอิง: Statista) การจัดการหลายสาขาให้มีคุณภาพและมาตรฐานเดียวกันเป็นเรื่องท้าทายมาก
ด้วย Buying Catalogue คุณสามารถเลือกสินค้าที่แต่ละสาขาจะเห็นและสั่งซื้อได้เท่านั้น ทำให้ทุกสาขาใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงตามมาตรฐานเดียวกัน สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในทุกสาขา
สำหรับซัพพลายเออร์ ฟีเจอร์ Selling Catalogue ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนรายการสินค้าและราคาสำหรับแต่ละสาขาได้ตามความเหมาะสม เพิ่มโอกาสในการทำโปรโมชั่นหรือปรับราคาสินค้าพรีเมียมได้อย่างอิสระ ซึ่งทำให้กระบวนการซื้อขายราบรื่นและตอบโจทย์ความต้องการของทั้งสองฝ่าย
ซัพพลายเออร์ใช้งาน Selling Catalogue อย่างไร?
ซัพพลายเออร์สามารถสร้างรายการสินค้าเฉพาะสำหรับแต่ละสาขาหรือกลุ่มลูกค้าได้ พร้อมตั้งส่วนลดหรือบวกเพิ่มราคาสินค้าตามช่วงเวลาที่กำหนด เช่น
- ซัพพลายเออร์อาจให้ส่วนลด 10% สำหรับเนื้อไก่ในช่วงโปรโมชั่น
- หรือเพิ่มราคาสำหรับวัตถุดิบคุณภาพสูงในช่วงเวลาที่ต้องการ
การตั้งค่าที่ยืดหยุ่นนี้ช่วยให้ทั้งร้านอาหารและซัพพลายเออร์มีข้อมูลตรงกันในเรื่องราคาและสินค้าที่เสนอ

ประโยชน์ของการตั้งราคาขึ้นและส่วนลด
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การตั้งราคามีความยืดหยุ่น เหมาะกับช่วงเทศกาลหรือโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ในช่วงรอมฎอน ซัพพลายเออร์มักจะลดราคาวัตถุดิบหลักอย่างข้าว เครื่องเทศ น้ำมัน เพื่อกระตุ้นยอดขาย
ในขณะเดียวกัน หากร้านคุณมีเมนูพรีเมียมที่ต้องใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง ซัพพลายเออร์สามารถตั้งราคาบวกเพิ่มเพื่อสะท้อนมูลค่าของสินค้าได้ ทำให้คุณรับรู้ต้นทุนที่แท้จริงและตั้งราคาขายได้เหมาะสม
ทำไมฟีเจอร์นี้จึงสำคัญในตลาดมาเลเซีย?
ตลาดอาหารมาเลเซียแข่งขันสูงและผู้บริโภคต้องการคุณภาพและความสม่ำเสมอสูง รายงานจาก MIDA ระบุว่า อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารในปี 2022 มีมูลค่า 47.5 พันล้านริงกิต การมีระบบจัดการซัพพลายเออร์ที่มีประสิทธิภาพอย่าง Food Market Hub จะช่วยให้ร้านอาหารทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารริมทาง หรือครัวกลาง สามารถควบคุมการจัดหาวัตถุดิบให้ได้คุณภาพสูงและคงที่
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
- Buying Catalogue ช่วยจัดการหลายสาขาอย่างไร?
Buying Catalogue ช่วยสร้างรายการวัตถุดิบที่อนุมัติสำหรับแต่ละสาขา ทำให้ทุกสาขาใช้วัตถุดิบเดียวกัน สร้างมาตรฐานและความสม่ำเสมอ - ซัพพลายเออร์สามารถตั้งส่วนลดได้ไหม?
ได้ ซัพพลายเออร์สามารถตั้งส่วนลดหรือบวกเพิ่มราคาสินค้า พร้อมกำหนดช่วงเวลาที่ราคานั้นจะใช้ได้ - ฟีเจอร์นี้เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กหรือไม่?
เหมาะมาก ไม่ว่าจะมีสาขาเดียวหรือหลายสาขา ระบบนี้ช่วยจัดการซัพพลายเออร์ได้ง่ายขึ้น - เริ่มต้นใช้งาน Buying and Selling Catalogue อย่างไร?
เพียงเข้าสู่ระบบ Food Market Hub แล้วไปที่เมนูจัดการซัพพลายเออร์ เพื่อสร้าง Buying Catalogue และเริ่มจัดการคำสั่งซื้อได้ทันที
การใช้ Buying and Selling Catalogue จาก Food Market Hub ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์ธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณควบคุมห่วงโซ่อุปทาน วางแผนราคา และจัดการคำสั่งซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับธุรกิจร้านอาหารที่มีหลายสาขาในมาเลเซียอย่างแท้จริง
อย่ารอช้า เริ่มใช้งานฟีเจอร์นี้วันนี้ เพื่อยกระดับการบริหารจัดการร้านอาหารของคุณให้เป็นมืออาชีพและเติบโตอย่างมั่นคง