รู้จักคู่มือคาดการณ์สต๊อก สำหรับร้านอาหาร ลดของเสีย เพิ่มกำไร

Inventory Forecasting คืออะไร?

การคาดการณ์สต๊อกคือกระบวนการประเมินว่าร้านอาหารจะต้องใช้วัตถุดิบปริมาณเท่าไหร่ในอนาคต โดยอิงจากข้อมูลยอดขายที่ผ่านมา พฤติกรรมลูกค้า และแนวโน้มต่าง ๆ เพื่อให้สามารถสั่งซื้อวัตถุดิบได้อย่างแม่นยำ ไม่มากเกินไปจนเน่าเสีย และไม่น้อยจนของขาดระหว่างบริการ

ทำไมการคาดการณ์สต๊อกถึงสำคัญ?

ร้านอาหารส่วนใหญ่มีกำไรต่อจานที่ค่อนข้างต่ำ จึงทำให้การควบคุมต้นทุนและการจัดการสต๊อกเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะถ้าไม่สามารถคาดการณ์สต๊อกได้อย่างแม่นยำ อาจทำให้ร้านสูญเสียโอกาสในการทำกำไรจากการจัดการที่ผิดพลาด การใช้ Inventory Forecasting หรือการคาดการณ์สต๊อกจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการจัดซื้อวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียจากการสั่งซื้อเกินความจำเป็น ซึ่งช่วยประหยัดเงินและทรัพยากรของร้านได้อย่างมาก

การคาดการณ์สต๊อกที่แม่นยำช่วยให้ร้านสามารถ หลีกเลี่ยงการสั่งซื้อมากเกินไป ซึ่งมักทำให้เกิดของเสียจากการเก็บวัตถุดิบไว้จนหมดอายุ หรือไม่สามารถใช้หมดภายในเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ การคาดการณ์ที่ดียังช่วยให้ร้านไม่ต้อง ขาดแคลนวัตถุดิบ ในช่วงเวลาที่ลูกค้าคับคั่ง เช่น ในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว ที่อาจทำให้เมนูบางอย่างหมดเร็วเกินไปและต้องเสียลูกค้าประจำไป

การคาดการณ์สต๊อกที่แม่นยำ ยังช่วยให้ร้านคง คุณภาพบริการ ได้อย่างต่อเนื่อง ลูกค้าจะไม่เจอกับคำว่า “เมนูนี้หมดแล้วค่ะ” ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้าและภาพลักษณ์ของร้านได้ การที่ร้านสามารถมีวัตถุดิบพร้อมเสิร์ฟได้ตลอดเวลาทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความใส่ใจในรายละเอียด และทำให้ร้านดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และการรับรู้ของแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้นในตลาด

ในระยะยาว การคาดการณ์สต๊อกอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ช่วยให้ร้านของคุณประหยัดต้นทุนและลดของเสีย แต่ยังช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำและช่วยเพิ่มยอดขายในระยะยาว โดยที่ร้านไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการขาดแคลนหรือการมีวัตถุดิบที่ไม่ได้ใช้

กระบวนการคาดการณ์สต๊อกทำอย่างไร?

  1. รวบรวมข้อมูลยอดขายย้อนหลังจากระบบ POS เพื่อดูว่าเมนูไหนขายดีที่สุดในช่วงเวลาใด
  2. วิเคราะห์รูปแบบความต้องการของลูกค้า เช่น วันไหนขายดี หรือกิจกรรมใดมีผลต่อยอดขาย
  3. พิจารณาฤดูกาล เช่น ซุปจะขายดีช่วงหน้าหนาว ขณะที่เครื่องดื่มเย็นอาจขายดีในหน้าร้อน
  4. ปรับตามวันพิเศษและเทศกาล เช่น วันหยุดยาวหรือเทศกาลท้องถิ่น
  5. คำนึงถึงระยะเวลาการจัดส่งจากซัพพลายเออร์
  6. ตรวจสอบและปรับปรุงการคาดการณ์อย่างสม่ำเสมอ โดยเปรียบเทียบกับยอดขายจริงทุกเดือน

ต้องใช้อะไรในการคาดการณ์สต๊อกให้แม่นยำ?

การคาดการณ์ที่ดีต้องอาศัยหลายองค์ประกอบ เช่น ข้อมูลยอดขายที่ละเอียดและน่าเชื่อถือ ซอฟต์แวร์จัดการสต๊อกที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบ POS ได้โดยตรง ความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ที่รู้เวลาการจัดส่ง และความสามารถในการปรับคำสั่งซื้อได้อย่างยืดหยุ่น นอกจากนี้ การเข้าใจลูกค้าและตลาดในพื้นที่ เช่น เมนูยอดนิยม หรือฤดูกาลท่องเที่ยว ก็ช่วยในการปรับกลยุทธ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น รวมถึงปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศ หรือสถานการณ์เศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่อยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ

วิธีทำให้การจัดการสต๊อกง่ายขึ้น

การจัดการสต๊อกในร้านอาหารอาจเป็นเรื่องยุ่งยากหากไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสม แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบัน การใช้ระบบที่มีประสิทธิภาพจะทำให้การจัดการสต๊อกของร้านอาหารเป็นเรื่องง่ายและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ดังนี้:

  1. ใช้ระบบ POS แบบบูรณาการที่สามารถติดตามยอดขายและสต๊อกแบบเรียลไทม์
    ระบบ POS (Point of Sale) ที่มีการบูรณาการกับการจัดการสต๊อกจะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบสถานะของวัตถุดิบได้ตลอดเวลา โดยระบบจะทำการอัปเดตข้อมูลสต๊อกทันทีที่มีการขายหรือใช้วัตถุดิบ ซึ่งจะช่วยให้คุณทราบทันทีว่าตอนนี้มีวัตถุดิบอะไรบ้างที่เหลือน้อย หรือหมดไปแล้ว การใช้ระบบนี้ทำให้ไม่ต้องรอนานถึงช่วงการตรวจสต๊อกประจำเดือน ระบบจะช่วยลดความผิดพลาดจากการนับสต๊อกด้วยมือ และช่วยให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. ตั้งค่าการแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อต้องสั่งวัตถุดิบ
    การตั้งค่าการ แจ้งเตือนอัตโนมัติ สำหรับวัตถุดิบที่ใกล้หมดหรือไม่เพียงพอต่อการใช้งานจะช่วยให้คุณไม่พลาดการสั่งซื้อในเวลาที่เหมาะสม ระบบจะช่วยตรวจสอบและแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อสต๊อกของวัตถุดิบถึงระดับที่ควรสั่งซื้อใหม่ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าเมนูที่ลูกค้าต้องการจะหมดในระหว่างวัน โดยคุณจะสามารถสั่งซื้อได้ทันทีและไม่ทำให้ร้านของคุณขาดแคลนวัตถุดิบสำคัญ
  3. ตั้งค่า PAR Level สำหรับวัตถุดิบหลัก เพื่อกำหนดปริมาณขั้นต่ำที่ควรมีในร้าน
    การ ตั้งค่า PAR Level สำหรับวัตถุดิบแต่ละชนิด เช่น ข้าว, น้ำมัน, ผัก หรือเนื้อสัตว์ จะช่วยให้คุณรู้ว่าควรมีสต๊อกขั้นต่ำในร้านเท่าไร เมื่อสต๊อกลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนด ระบบจะช่วยให้คุณสามารถสั่งซื้อได้ทันที ทำให้การสั่งซื้อวัตถุดิบเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ต้องเดาเกี่ยวกับปริมาณที่ต้องการ สั่งซื้อในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อให้สามารถรองรับการขายได้อย่างไม่มีปัญหาตลอดช่วงเวลาที่ร้านเปิด
  4. อบรมพนักงานให้สามารถตรวจเช็กและบันทึกข้อมูลลงระบบอย่างถูกต้อง
    แม้ระบบ POS และเครื่องมือต่าง ๆ จะช่วยให้การจัดการสต๊อกเป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่การ อบรมพนักงาน ให้สามารถตรวจเช็กข้อมูลและบันทึกข้อมูลลงระบบได้อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ พนักงานทุกคนในครัวต้องรู้วิธีการบันทึกการใช้วัตถุดิบ การคำนวณการใช้ต่อวัน และวิธีการเติมข้อมูลลงในระบบอย่างถูกต้อง เพื่อให้ข้อมูลการจัดการสต๊อกเป็นไปอย่างแม่นยำ เมื่อข้อมูลถูกต้อง การคำนวณ COGS และการวางแผนการจัดซื้อก็จะมีความถูกต้องตามไปด้วย

Inventory Forecasting คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ร้านอาหารลดของเสีย ประหยัดต้นทุน และรักษาคุณภาพบริการ ด้วยการใช้ข้อมูลจริงมาวิเคราะห์ พร้อมเครื่องมือที่เหมาะสม คุณจะสามารถคาดการณ์และสั่งซื้อวัตถุดิบได้แม่นยำยิ่งขึ้น แม้ช่วงแรกอาจยังไม่แม่นเป๊ะ แต่เมื่อคุณเก็บข้อมูลมากขึ้น ระบบจะช่วยวิเคราะห์ได้ดีขึ้นตามเวลา ทำให้ร้านของคุณบริหารง่ายขึ้น และทำกำไรได้อย่างมั่นคงในระยะยาว

LINE Logo
Chat Now ×